Work from home คืออะไร?
Work from home ความหมายก็ตรงตัวว่า ทำงานจากที่บ้านหรือที่นิยมเขียนกันว่า WFH คำนี้เกิดเป็นกระแสขึ้นมาหลังจากเกิดวิกฤตโรคระบาดไปทั่วโลก นั่นก็คือ Covid-19 เป็นทางเลือกในการลดการแพร่กระจาย-รับเชื้อโรคจากการพบปะ พูดคุย หรือรวมตัวอยู่ในพื้นที่แออัด หรือการใช้ชีวิตประจำวันในสังคม เช่น เดินทางโดยระบบขนส่งสาธารณะ นั่งทำงานในออฟฟิศ เข้าใช้บริการนั่งทานในร้านอาหาร ใช้บริการสถานที่ต่าง ๆ ที่ต้องมีการอยู่ร่วมกับผู้อื่น และเป็นทางรอดของนายจ้างหรือผู้ที่เป็นเจ้าของกิจการต่าง ๆ เพื่อลดภาระ ลดต้นทุน ลดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เพื่อประคับประคองธุรกิจ โดยไร้ซึ่งการเยียวยาของรัฐ มีเพียงประกาศปาว ๆ ให้เรารักษาระยะห่างทางสังคม (Social distancing) อย่างเคร่งครัด
แล้วงานลักษณะใดที่ work from home ได้ละ?
เป็นงานที่มีเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาเป็นส่วนเกี่ยวข้องในการทำงาน ผลิตผลงาน และติดต่อสื่อสาร โดยใช้อุปกรณ์ส่วนตัว เช่น คอมพิวเตอร์ แล็ปท็อป สมาร์ตโฟน แท็บเล็ต ฯลฯ และจำเป็นต้องพึ่งพาอินเทอร์เน็ตด้วยเสมอ
- อาชีพพนักงานประจำที่สามารถทำงานได้ที่บ้านได้นั้น องค์กรอาจต้องสนับสนุนอุปกรณ์ในการทำงาน นโยบายสำหรับการทำงานที่บ้านให้กับพนักงาน เพื่อการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ กระนั้นแล้วผู้เขียนก็เห็นว่าส่วนใหญ่ใช้อุปกรณ์ส่วนตัวกันทั้งนั้นแหละ
- ร้านอาหาร ร้านขนม ร้านกาแฟ ร้านค้า สามารถปรับใช้นำเทคโนโลยีมาใช้ในการขายออนไลน์แทนที่การขายหน้าร้าน พึ่งพาระบบแอปพลิเคชันบริการเป็นตัวกลางในการเข้าถึงลูกค้าและผู้ให้บริการส่งอาหาร
- งานที่ใช้ทักษะ ความสามารถเฉพาะตัว เช่น นักแปล นักเขียน นักแต่งเพลง นักการตลาด นักวิเคราะห์ ศิลปิน ฯลฯ งานรับจ้างโดยใช้ฝีมือ งานประดิษฐ์ งานช่าง รับงานมาทำที่บ้าน และจัดส่งให้ลูกค้าตามกำหนด
แต่ Work from home ไม่ได้เหมาะกับทุกอาชีพ
ผู้ที่ทำงานกับเครื่องมือเฉพาะหรือมีงานที่เกี่ยวข้องกับการพบปะผู้คน ไม่ว่าจะเป็นอาชีพ วิศวกร นายช่างคุมเครื่องจักร คนขับรถบรรทุก คนขับรถสามล้อ แท็กซี่ มอเตอร์ไซด์รับจ้าง พนักงานใช้แรงงาน พนักงานเสิร์ฟ พนักงานล้างจาน แม่บ้านทำความสะอาด หมอนวด พนักงานบริการต่าง ๆ พนักงานต้อนรับ พนักงานประจำเคาน์เตอร์ธนาคารหรือโรงแรม ฯลฯ กลุ่มคนเหล่านี้ไม่สามารถใช้เทคโนโลยีมาบรรลุการทำงานของตนได้แน่นอน จำเป็นต้องผันตัว เปลี่ยนสายงาน เรียกง่าย ๆ ว่า ปรับตัวเพื่อความอยู่รอด โดยใช้เทคโนโลยีและอุปกรณ์ส่วนตัว หลายคนเป็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ แต่ใช่ว่าทุกคนจะประสบความสำเร็จกับอาชีพนี้ เพราะปัจจุบันคนขายเยอะกว่าคนซื้อเข้าไปแล้ว
ผู้เขียนเองเป็นนักแปลอิสระ (Freelance Translator) เต็มตัวก็เพราะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค Covid-19 และผันตัวกลายเป็น Digital nomad (ผู้เร่ร่อนดิจิทัล) สามารถนั่งทำงานได้ทุกที่ไม่ว่าจะเป็นคอนโด บ้านเพื่อน สวนสาธารณะ หลังกระบะรถของตัวเอง ร้านกาแฟ ร้านอาหาร สถานที่ตามต่างจังหวัด ที่มีระบบการจัดการรักษาระยะห่างทางสังคม ขอเพียงแค่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ตหรือไวฟาย อุปกรณ์ทำงานหลัก ๆ ของผู้เขียนคือ แล็ปท็อป ที่มีชื่อเรียกใหม่ ๆ ว่า อัลตราบุ๊ก (Ultrabook), แท็บเล็ตยี่ห้อไอแพด, โทรศัพท์มือถือ ๒ เครื่อง ๑ เครื่องใช้ติดต่อสื่อสาร และอีก ๑ เครื่องใช้เปิดฮอตสปอตไวฟาย (Hotspot Wi-Fi) กรณีฉุกเฉินไม่มีไวฟายใช้ และสมาร์ตวอตช์ (Smart Watch) ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นมากสำหรับผู้เขียน เพราะบางครั้งการมีงานแปลส่งเข้ามาในขณะที่ผู้เขียนไม่ได้เปิดแล็ปท็อป หรือโทรศัพท์ไม่ได้อยู่ใกล้ตัว ก็จะมีการแจ้งเตือนบนสมาร์ตวอตช์ที่ผู้เขียนได้ทำการเชื่อมต่อไว้กับโทรศัพท์ จะได้ไม่พลาดงานต่าง ๆ เพราะสิ่งที่นักแปลควรจะต้องมีและรักษามันไว้ให้ดี คือ มาตรฐานและวินัย
หากใครมีทักษะหรือความสามารถเฉพาะตัวต่าง ๆ สามารถที่ทำงานที่บ้านได้ ลองเข้าไปใช้เว็บไซต์ Freelancer.com หรือ Upwork.com หรือ Fiverr.com เป็นศูนย์รวมแหล่งหางานของชาวฟรีแลนซ์ (Freelancer) และเหล่าผู้เร่ร่อนดิจิทัล (Digital nomad) ระดับสากล นิยมใช้กันทั่วโลก ส่วนของไทยก็มี Fastwork.co ลองศึกษากันดูค่ะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น